คนท้องปวดหลัง ดูเหมือนเป็นหนึ่งในเรื่องที่ได้ยินกันจนชินและได้เห็นกันเป็นประจำ คุณแม่ตั้งครรภ์เกือบทุกรายจะมีปัญหากับอาการนี้ ทั้งนี้เนื่องจากในช่วงที่มีการตั้งครรภ์ น้ำหนักของครรภ์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงท้องส่วนหน้าจะไปดึงรั้งเพิ่มภาระให้ร่างกายของคุณแม่ให้ต้องแบกรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ซึ่งแม้แต่ในคนธรรมดาทั่วไป หากว่าเราต้องแบกหรืออุ้มของที่มีมีน้ำหนักมากเป็นประจำก็ย่อมมีอาการปวดหลังได้ แต่คุณแม่ต้องรับภาระแบกน้ำหนักเป็นเวลานานถึง 9 เดือน และไม่สามารถปลอดวางได้ตลอดระยะเวลานั้น ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดปัญหาเรื่องอาหารปวดหลัง

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่มีผลต่อการทำให้เกิดอาการปวดหลังก็คือท่าทางหรืออิริยาบถต่างๆ ที่ทำคุณแม่ทำอยู่เป็นประจำ ซึ่งมีอยู่หลายท่าหลายอิริยาบถที่สามารถช่วยให้คุณแม่บรรเทาปัญหาในเรื่องอาหารปวดหลังได้…

การแก้ปัญหาอาการปวดหลังคุณแม่ต้องใส่ใจต่ออิริยาบถดังต่อไปนี้

1. ท่ายืนของคุณแม่ตั้งครรภ์ ควรพยายามยืนให้ตัวตรงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เนื่องจากการยืนตัวตรงจะช่วยให้ร่างกายกายใช้กล้ามเนื้อส่วนลำตัวพยุงน้ำหนักของครรภ์ที่เอนไปทางด้านหน้า หากว่าคุณแม่ไม่พยายามที่จะทำลำตัวให้ตรงไว้ กระดูกก็จะรับภาระในเรื่องน้ำหนักจนเกิดอาการปวดหลังได้
2. ท่านั่งของคุณแม่ตั้งครรภ์ ก็ควรพยายามนั่งหลังตรงเช่นกัน และจะเป็นการดีมากหากหาเก้าอี้ตัวเล็กๆ มารองที่เท้าเอาไว้ เพื่อช่วยพยุงน้ำหนัก
3. ท่านอนของคนท้อง ก็มีผลต่ออาการปวดหลัง เนื่องจากเวลาที่นอนตะแคงท้องของคุณแม่จะดึงรั้งส่วนหลังของร่างกายให้เอียงไปทำให้เกิดอาการปวดหลังได้ ซึ่งเรื่องนี้ หากมีหมอนคนท้องมาช่วยรองรับสรีระของร่างกายก็จะสามารถช่วยพยุงรับน้ำหนักเอาไว้ได้เป็นอย่างดี
4. พยายามเปลี่ยนท่าอยู่บ่อยๆ ไม่ควรอยู่ในอิริยาบถใดเป็นเวลานานๆ ในระหว่างวันก็ควรขยับอย่างน้อยชั่วโมงละหนึ่งครั้ง เปลี่ยนท่าทางไปเป็นท่าอื่นหรือทำอย่างอื่น

ด้วยการใส่ใจในเรื่องอิริยาบถเหล่านี้ อาการปวดหลังของคนท้อง ก็จะลดลง ทำให้คุณแม่รู้สึกดีขึ้นได้อย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าจะดูเป็นวิธีการง่ายๆ ก็ตาม แต่ได้ผลจริง

คนที่มีน้ำหนักเกิน ในปัจจุบันเราเรียกว่าเป็นผู้ที่มีอาการป่วย ที่เรียกว่า “โรคอ้วน” ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรจะหาทางแก้ไข เนื่องจากความอ้วนนำมาซึ่งโรคภัยไข้เจ็บนานาประการ แต่อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากคนทั่วไปแล้ว กลุ่มคนที่มีน้ำหนักเกินที่น่าเป็นห่วงมากอีกกลุ่มหนึ่งก็คือ กลุ่มคุณแม่ตั้งครรภ์ ซึ่งหากว่าคุณแม่เป็นผู้ที่มีน้ำหนักมากกว่าปกติ จะต้องมีการเฝ้าระวังตั้งแต่เริ่มมี อาการบ่งบอกว่าท้อง 

ทั้งนี้เนื่องจากการที่คุณแม่เป็นผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินอยู่แล้วจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแทรกซ้อนต่างๆ ซึ่งความน่ากลัวของบางอาการถึงขั้นสูญเสียการตั้งครรภ์ ! หรือเกิดการแท้งบุตรได้เลยทีเดียว !! เพราะว่า ความอ้วนนำมาซึ่งอาการในกลุ่มอาการอันตรายที่เราเรียกว่า ครรภ์เป็นพิษ ได้แก่ โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ความดันโลหิตสูง ซึ่งสิ่งเหล่านี้กระทบกระเทือนต่อการตั้งครรภ์ทั้งสิ้น ดังนั้นคุณแม่ที่มีน้ำหนักเกินควรใส่ใจให้มากตั้งแต่มี อาการท้องเดือนแรก ซึ่งเราจะต้องมีการพยายามควบคุมอาหาร แต่ทั้งนี้ไม่ใช่ว่าไม่พยายามรับประทานอะไร คุณแม่ตั้งครรภ์ยังมีความจำเป็นต้องรับประทานมากกว่าคนทั่วไป เพียงแต่ว่าจะต้องมีการเลือกชนิดหรือประเภทของอาหารให้เหมาะสมให้มากยิ่งขึ้น อาหารบางประเภทที่เพิ่มน้ำหนักหรือมีปริมาณน้ำตาลที่สูงควรงดเว้น เพื่อไม่ให้ไปกระตุ้นอาการ แม้แต่ผลไม้บางชนิดที่มีรสหวานจัดก็ไม่ควรรับประทานในช่วงนี้

อาการครรภ์เป็นพิษที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรหมั่นสังเกตดูตัวเองก็คือ มีอาการบวมตามร่างกายผิดปกติ รู้สึกปวดหัว ตามัว และมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ซึ่งเมื่อไปตรวจจะพบว่ามีความดันโลหิตสูง และหากไปพบแพทย์และตรวจอย่างละเอียดจะพบว่าในปัสสาวะมีปริมาณน้ำตาล หรือโปรตีนที่สูงผิดปกติ ! ซึ่งอาการเหล่านี้คืออาการครรภ์เป็นพิษ  ที่คุณแม่ท้องที่มีน้ำหนักมากกว่าปกติต้องเฝ้าระวัง

อย่างไรก็ตามการที่คุณแม่ที่เป็น คนอ้วนท้อง ไม่ใช่เรื่องที่น่าวิตกกังวลเสมอไป เพราะหากว่ามีการดูแลสุขภาพควบคุมเรื่องอาหารและหมั่นออกกำลังกาย ไปพบแพทย์ตามเวลาที่กำหนด ความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาอาการครรภ์เป็นพิษก็จะลดลง เนื่องจากเรามีการป้องกันที่เหมาะสมนั่นเอง

การออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ดีสำหรับคนทุกเพศทุกวัย ไม่เว้นแม้แต่คุณแม่ตั้งครรภ์ ซึ่งก็ควรมีการออกกำลังด้วยเพื่อเสริมสร้างสุขภาพ อย่างไรก็ตามสำหรับคุณแม่ท้อง การออกกำลังกายย่อมจะต้องมีการพิจารณาและใส่ใจในรูปแบบของการออกกำลังกายให้มากกว่าปกติ ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมการออกกำลังกายที่ได้รับการแนะนำให้คนท้องที่ได้ยินบ่อยๆ ก็คือ โยคะสำหรับคนท้อง แต่… อย่างไรก็ตาม ยังมีคุณแม่ตั้งครรภ์อีกหลายท่านที่มีความสงสัยว่าการออกกำลังกายแบบนี้มันดีต่อการตั้งครรภ์จริงหรือไม่ ? เพราะหลายคนคิดว่าการออกกำลังกายด้วยการทำโยคะ เป็นอะไรที่ไม่ง่าย ร่างกายจะต้องถูกบิดถูกดัดไปในท่าทางต่างๆ ที่หลายท่าไม่ได้ง่ายเลย จึงทำให้เกิดวามกังวลว่ามันจะการดีจริงหรือไม่ และเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุในช่วงตั้งครรภ์หรือเปล่า ?

สำหรับเรื่องนี้ มันเป็นความจริงที่ว่าการเล่นโยคะ เป็นการบิดดัดร่างกายในท่วงท่าต่างๆ ที่มองดูแล้วผิดธรรมดา บางคนที่เล่นเป็นประจำและมีความชำนาญสามารถบิดดัดร่างกายไปในท่วงท่าที่คนธรรมดาไม่สามารถทำท่านั้นได้ และบางท่าก็ดูน่าหวาดเสียวหรือดูว่าจะเสี่ยงต่อการล้ม ซึ่งท่วงท่าเหล่านี้เองที่ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์เป็นกังวลว่ามันเป็น ท่าออกกำลังกายสำหรับคนท้อง ที่เหมาะสมจริงๆ หรือไม่ ?

การเล่นโยคะสำหรับคนคุณแม่ที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ จริงๆ มีความแตกต่างจากโยคะทั่วไปที่เราพบเห็นอยู่บ้าง เนื่องจากจะมีการออกแบบท่วงท่าให้เหมาะสมกับสรีระและช่วงการตั้งครรภ์เป็นพิเศษ ดังนั้นคุณแม่ไม่ต้องกังวลในเรื่องความยากของท่าและความเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย แต่อาจจะต้องมีผู้ฝึกสอนที่มีความชำนาญทางด้านนี้เป็นพิเศษมาช่วยให้คำแนะนำ

ซึ่งประโยชน์ที่คุณแม่จะได้รับจากการเล่น โยคะคนท้อง ก็คือ ทำให้ร่างกายของคุณแม่เกิดความแข็งแรง มีความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ ทำให้คุณแม่มีสมาธิจิตใจสงบและสามารถควบคุมความรู้สึกในร่างกายของตนเองได้ดีขึ้น และการออกกำลังกายเป็นประจำ ยังเป็นหนึ่งใน  วิธีลดหน้าท้องหลังคลอด ที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย

การมีผิวที่ขาวใส เป็นเทรนด์ที่นิยมกันมากในปัจจุบันนี้ และเราจะพบว่ามีการค้นหาวิธีการต่างๆ นานาเพื่อช่วยให้ตนเองมีผิวที่ขาวขึ้น ไม่ว่าจะด้วยการรับประทานยา การใช้ครีม การใช้สบู่ การใช้สมุนไพร หรือแม้แต่การฉีดสารต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งก็มีข่าวฮอตฮิตฮือฮากระแสนิยมในสิ่งต่างๆ เป็นระยะๆ แต่ยังไม่หมดแค่นั้น แม้ตัวเองจะไม่ขาวเท่าไหร่ แต่ก็มีคุณแม่หลายท่านเช่นกันที่อยากจะให้ลูกในท้องคลอดออกมามีผิวขาว เป็นที่มาของคำถามที่ว่า คนท้องควรกิน อะไรดีที่ช่วยทำให้ลูกผิวขาวขึ้นได้บ้าง

คนท้องต้องกินอะไร ที่จะทำให้ลูกผิวสวย ? บ่อยครั้งที่เราจะได้ยินว่าให้ดื่มน้ำมะพร้าว เพื่อทำให้ลูกมีผิวขาวใส หรือบางคนก็บอกว่า ต้องทานพวกมะเขือเทศสิ ลูกจึงจะออกมาผิวสวย บางคนก็บอกไปว่าทุเรียน ! ซึ่งทุกอย่างที่กล่าวมาก็ล้วนแต่เป็นความเชื่อที่บอกเล่ากันและมีผู้ให้ความสนใจรับประทาน ผักผลไม้หรืออื่นๆ จริงๆ ด้วยเหตุผลความต้องการในเรื่องผิวพรรณที่สวยงามของลูก เรียกว่าปูพื้นให้มีผิวสวยกันตั้งแต่ในท้องกันเลยทีเดียว !

อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องนี้ จริงๆ แล้วการรับประทานอาหารใด ๆก็ตาม ไม่สามารถช่วยให้ลูกผิวขาวได้ เนื่องจากสีผิวเป็นเรื่องของกรรมพันธุ์เป็นหลัก การที่คุณพ่อคุณแม่มีผิวเข้ม จะให้กำเนิดลูกที่มีผิวขาวผ่องเลย เห็นจะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก เพราะมันเป็นเรื่องของเม็ดสีที่ผิว และการรับประทานอาหารแม้จะมีส่วยช่วยบ้างในเรื่องผิวพรรณ แต่ก็ไม่ได้มีผลรับรองจากการทดลองหรือวิจัยใดๆ ที่สามารถทำให้มั่นใจได้ว่า รับประทานสิ่งต่างๆ เหล่านั้นเข้าไปแล้วลูกจะมีผิวที่ขาวขึ้น ดังนั้นเรื่องการกินอะไรแล้วทำให้ลูกผิวขาวผิวสวย จึงเป็นเรื่องของความเชื่อมากกว่าข้อเท็จจริง !

อย่างไรก็ตามการรับประทานอาหารที่ครบหมู่และเสริมผักผลไม้ที่มีประโยชน์สามารถช่วยให้ลูกมีสุขภาพแข็งแรง การ ปรึกษาเรื่องท้อง ว่ากินอะไรทำให้ลูกผิวขาว จึงควรลดความสำคัญลง แล้วไปใส่ใจว่ากินอะไรทำให้ลูกสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์จะดีกว่า เพราะเด็กที่สุขภาพดี ไม่ว่าจะมีผิวขาวหรือผิวเข้ม ก็เป็นเด็กที่ดูดีและน่ารักเช่นเดียวกัน

การใช้สมุนไพรในช่วงตั้งครรภ์ เป็นหนึ่งใน วิธีดูแลคนท้อง ที่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นการใช้พืชจากธรรมชาติเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาในด้านต่างๆ ของคนท้อง ลดการรับประทานยาลงได้ แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เราจะเลือกใช้สมุนไพรชนิดใดชนิดหนึ่งจะต้องมีการศึกษาถึงผลกระทบให้ดีก่อน เนื่องจากสมุนไพรบางชนิดก็ส่งผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์เช่นกัน ดังนั้นไม่ว่าจะใช้สมุนไพรชนิดไหนจะต้องปรึกษาผู้รู้เสียก่อน และดีที่สุดหากไม่มั่นใจก็คือปรึกษาแพทย์ว่าสามารถรับประทานสมุนไพรชนิดนั้นๆ ได้หรือไม่

สมุนไพรชนิดหนึ่งที่สามารถใช้เป็นได้เป็นประจำโดยไม่ส่งผลร้ายในการตั้งครรภ์และสามารถช่วยในเรื่องสุขภาพของคุณแม่ตั้งครรภ์ได้ดีก็คือ “ใบเตย” ซึ่งสิ่งที่ใบเตย ซึ่งเราสามารถใช้สมุนไพรชนิดนี้นำมาชงเป็นชา หรือต้มน้ำดื่มช่วยได้ก็อาทิเช่น

อาการอ่อนเพลียเนื่องจากอาการแพ้ท้อง การดื่มชาใบเตย วันละ 2 แก้ว สามารถช่วยให้กระปรี้กระเปร่ามากขึ้นได้ เพราะใบเตยมีสรรพคุณบำรุงกำลังและบำรุงประสาท ทำให้คุณแม่รู้สึกดีขึ้นจากการการแพ้ท้องได้

อาการความดันสูงในช่วงตั้งครรภ์ ชาใบเตยสามารถช่วยลดความดันโลหิตสูงได้ ด้วยการดื่ม เช้าเย็น ครั้งละ 1 แก้ว และยังเป็นยาบำรุงหัวใจอีกด้วย

อาการเบาหวานขณะตั้งครรภ์ เป็นอีกอาการหนึ่งที่ใบเตยช่วยได้ ใบเตยมีสรรพคุณลดน้ำตาลในเลือด ซึ่งอาการนี้เป็นหนึ่งในอาการที่เกิดขึ้นได้ในช่วงตั้งครรภ์และทำให้คุณแม่มีความเสี่ยงที่จะมีอาการครรภ์เป็นพิษได้อีกด้วย

อาการบวมน้ำตามร่างกาย การบวมน้ำตามร่างกายเป็นหนึ่งใน อาการคนท้อง ที่พบได้บ่อยๆ ใบเตยสามารถช่วยในการขับปัสสาวะ ช่วยลดอาการบวมน้ำได้

และนอกจากนี้ ในกรณีที่คุณแม่มีปัญหาด้านผิวพรรณที่เป็นฝ้า ผิวเสีย ใบเตยสามารถนำมาปั่น แล้วใช้พอกหน้าเพื่อทำให้ผิวพรรณสดใสขึ้นได้อีกด้วย เรียกว่านอกจากใช้รับประทานเพื่อบำรุงภายใน ยังสามารถใช้ในการบำรุงภายนอกในส่วนผิวพรรณได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

ดังนั้นใบเตยจึงเป็นหนึ่งในสมุนไพรที่สามารถใช้ช่วยในการ ดูแลคนท้อง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่มีผลข้างเคียง สามารถใช้ได้ตลอดช่วงการตั้งครรภ์