ในช่วงที่ตั้งครรภ์ คุณแม่มักจะได้รับคำแนะนำให้ทานอาหารโปรตีนจากเนื้อปลากันเป็นพิเศษ หนึ่งเพราะเนื้อปลาเป็นโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพ ย่อยง่าย ไม่ก่อให้เกิดอาการอืดท้อง ย่อยสลายดูดซึมนำไปใช้งานได้เร็ว ไม่ค่อยก่ออาการแพ้ มีโปรตีนสูง และ ที่ได้ยินบ่อยๆ ก็คือ ในเรื้อปลามันมี DHA ! ซึ่งเชื่อว่ามีหลายๆ ท่านตั้งคำถามว่า DHA นี้มันคืออะไร และมันมีข้อดีแบบไหน ต่อ เด็กในครรภ์ และทำไมเขาถึงแนะนำให้ทานกันเป็นประจำ ตั้งแต่ช่วงต้นการตั้งครรภ์ไปจนถึงกำหนดคลอด
DHA หรือ เรียกเต็มๆ ว่า Docosahexaenoic acid คือ กรดไขมันไม่อิ่มตัว ในกลุ่มสารอาหารที่เราเรียกกันว่า โอเมก้า 3 (ที่เราเห็นเขาโฆษณาว่าช่วยทำให้ลูกน้อยฉลาดบ่อยๆ นั่นแหละ) DHA นี้ เป็นส่วนประกอบสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานของเซลล์สมองและระบบประสาท ซึ่งในกรดไขมันในสมองทั้งหมดจะมี DHA อยู่ถึง 40% ดังนั้นมันจึงเป็นสารอาหารที่จำเป็นมากในการทำงานของสมอง
การเสริมอาหารที่มีส่วนประกอบของ DHA เข้าไปก็เพื่อไปช่วยสร้างเสริมพัฒนาการทางด้านสมองและระบบประสาทของทารก หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เพื่อให้เด็กมีสมองดี เติบโตมาเป็นเด็กฉลาด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นยอดปรารถนาของคุณพ่อคุณแม่
อาหารที่มี DHA สูงได้แก่เนื้อปลา ซึ่งในปัจจุบันพบว่ามีทั้งในปลาทะเลและปลาน้ำจืด ในปลาทะเลได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาโอ ปลาทู และปลาทะเลน้ำลึกอื่นๆ ส่วนในปลาน้ำจืด ที่มี DHA ในเนื้อมากนั้น จะเป็นพวกปลาที่มีไขมันในเนื้อสูง เช่น ปลาสวาย ปลาช่อน ปลาดุก ปลาตะเพียน ดังนั้นจึงเป็นที่มาว่าทำไมจึงมีการแนะนำให้คนท้องรับประทานเนื้อปลามากเป็นพิเศษ นั่นก็เพื่อให้ร่างกายของคุณแม่ได้รับสารอาหารประเภทนี้เข้าไปมากๆ และส่งต่อไปเสริมสร้างพัฒนาการทางด้านสมองให้กับ เด็กในครรภ์ ได้อย่างเต็มที่นั่นเอง
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น