อะไรคือตัวการทำให้เกิดอาการแพ้ท้องในช่วงที่มี การตั้งครรภ์

อาการคนท้อง ที่เด่นชัดและเป็นที่ทราบกันดีก็คือ อาการคลื่นไส้อาเจียน เหม็นง่าย รับประทานอาหารไม่ค่อยได้ หรือที่เรียกว่า “อาการแพ้ท้อง” ซึ่งคุณแม่ส่วนใหญ่ประมาณ 95% จะมีอาการนี้เกิดขึ้นในขณะตั้งครรภ์  แต่จะมีอาการมากหรือมีอาการน้อยก็อาจจะแตกต่างกันไป ส่วนใหญ่จะมีอาการนี้ในช่วง 3 เดือน ตอนต้น หรือ ไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ หลังจากนั้นอาการก็จะลดลงและหายไปพร้อมๆ กับขนาดของครรภ์ที่ใหญ่ขึ้น คุณแม่ตั้งครรภ์เคยสงสัยกันไหมว่าอาการนี้เกิดจากอะไร ?

อาการแพ้ท้องนั้นจริงๆ แล้วเกิดจากที่รกผลิตฮอร์โมนเพื่อปรับสภาพร่างกายให้พร้อมรองรับ การตั้งท้อง และดูแลทารกในครรภ์ ซึ่งเรียกว่า ฮอร์โมน HCG หรือเรียกเต็มๆ ว่า Human Chorionic Gonadotropin ฮอร์โมนนี้จะถูกผลิตเริ่มต้นจากเซลล์ของไข่ที่มีการปฏิสนธิ และฝักตัวสร้างรกในครรภ์ ฮอร์โมนตัวนี้จะทำหน้าที่ไปกระตุ้นให้ฮอร์โมนอื่นๆ ในร่างกายของคุณแม่ โดยเฉพาะในส่วนของรังไข่ ให้มีการปรับสภาพเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพรองรับการมีเด็ก แต่จะมีผลข้างเคียงก็คือ อาการคลื่นไส้อาเจียน เวียนหัว ทานอาหารไม่ค่อยได้ในช่วงแรก แต่เมื่อรกเจริญเต็มที่แล้ว ก็ทำหน้าที่สร้างฮอร์โมนอื่นๆ แทนรังไข่ อาการคลื่นไส้อาเจียน หรืออาการแพ้ท้องก็จะลดลงตามไปด้วย

อย่างไรก็ตาม มีบางกรณีที่คุณแม่มีอาการแพ้ท้องรุนแรงมาก อาจจะต้องทำการตรวจหาสาเหตุว่าทำไมจึงมีอาการรุนแรงเช่นนั้น ซึ่งเป็นได้ว่าเกิดจาการผลิตฮอร์โมน HCG ในปริมาณสูง ซึ่งจำเป็นจะต้องตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุ เพราะอาจเกิดจากความผิดปกติของรก หรือ อาจเกิดจากการ  ท้องลูกแฝด ก็เป็นไปได้ ซึ่งหากเป็นกรณีที่เกิดอาการเหล่านี้ การดูแลคนท้อง จะต้องมีความพิเศษมากขึ้นตามไปด้วย

ดังนั้น ตัวการที่ทำให้เกิดอาการแพ้ท้องก็คือ ฮอร์โมน HCG แต่ไม่ต้องกังวลไป ในกรณีที่มีอาการแพ้ท้องมากคุณหมอผู้ดูแลครรภ์มีวิธีหลายอย่างที่ช่วยบรรเทาอาการได้ และโดยทั่วไปก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไรจนเกินไป จะมีผลก็เฉพาะในช่วงแรกที่คุณแม่จะมีอาการไม่ค่อยสบายสักเท่าไหร่ และรับประทานอาหารไม่ค่อยได้ แต่หลังจากผ่านช่วงไตรมาสแรกของ การตั้งครรภ์ ไปก็หมดปัญหาแล้ว