ในช่วงที่ตั้งครรภ์ ตั้งแต่ในช่วงแรกๆ อาการเริ่มต้นของคนท้อง ก็จะมีอาการอ่อนเพลียและง่วงเหงาหาวนอนง่าย ส่วนใหญ่ก็จะเข้าใจกันว่า เราควรให้คุณแม่ตั้งครรภ์ได้พักผ่อนมากๆ เข้าไว้ เพื่อที่จะได้แข็งแรง
มันเป็นความจริงว่าเมื่อคนเราอ่อนเพลีย เป็นสัญญาณอาการเตือนว่าร่างกายของเราต้องการ การพักผ่อนที่มากขึ้น แต่… การนอนมากเกินไปสำหรับคนที่ตั้งท้องกลับไม่ใช่เรื่องดี !
ทั้งนี้เนื่องจากยิ่งอายุครรภ์มากน้ำหนักของร่างกายก็มากตามไปด้วย และน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นในส่วนท้องจะไปกดทับและเบียดเอาอวัยวะอื่นๆ ให้ทำงานได้ไม่สมบูรณ์เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานของระบบการย่อยและดูดซึมอาหาร ซึ่งในคุณแม่ตั้งครรภ์หากว่านอนอยู่ในท่าเดิมนานๆ จะเกิดอาการจุกเสียด แน่น เพราะน้ำหนักครรภ์ไปกดทับและเบียดดันการทำงานของกระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้การย่อยอาหารไม่สะดวก เกิดแก๊สในกระเพาะและลำไส้ ทำให้ทานอาหารได้น้อยและรู้สึกอึดอัด รวมไปถึงระบบการไหลเวียนของโลหิต ซึ่งน้ำหนักของครรภ์จะไปกดทับเส้นเลือด โดยเฉพาะเส้นเลือดดำใหญ่ที่ส่วนล่างของร่างกาย ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ร่างกายจะเกิดอาการบวม และหน้ามืดได้ง่าย นี่ยังไม่นับรวมถึงอาการปวดเมื่อยตามร่างกายที่เกิดจากในเวลาที่นอนมากเกินไปน้ำหนักกดทับส่วนใดส่วนหนึ่งนานๆ ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยไม่สบายตัว ดังนั้นการนอนมากๆ จึงไม่ใช่เรื่องดี
คนท้อง ควรมีการลุกเดินบ้างเป็นระยะๆ โดยเฉพาะในเวลากลางวัน หากนอนมากไปจะส่งผลให้ตอนกลางคืนเกิดอาการนอนไม่หลับ ซึ่งนั่นส่งผลเสียต่อสุขภาพมาก ควรจะมีการลุกเดินไปมา เปลี่ยนอิริยาบถบ้าง เพื่อให้เลือดลมในร่างกายไหลเวียนได้สะดวก และยังถือเป็นการออกกำลังกายไปในตัว ทำให้เลือดสูบฉีดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายให้ดีขึ้น และการเดินยังมีส่วนช่วยให้ระบบย่อยทำงานได้ดียิ่งขึ้น อีกด้วย
ในช่วงเวลากลางวันควรมีการเปลี่ยนท่าทางและลุกเดินบ้างทุกๆ 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายไม่ถูกน้ำหนักกดทับมากเกินไป แต่ไม่ใช่ว่าเดินไปเดินมาอยู่ทั้งวัน แบบนั้นก็ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยได้อีกเช่นกัน ควรขยับเป็นระยะ เดิน หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ที่เป็นการเคลื่อนไหวออกกำลังกายบ้าง จึงจะดีต่อสุขภาพ
ดังนั้น การพักผ่อนแม้ว่ามีความจำเป็น แต่ควรเป็นการพักผ่อนนอนหลับในเวลากลางคืน ส่วนการนอนอยู่ตลอดเวลาในช่วงกลางวันนั้นถือเป็น ข้อห้ามคนท้อง ที่ไม่ควรปฏิบัติ !
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น