ทายเพศลูกในท้อง ด้วยปัสสาวะของคุณแม่และกะหล่ำปลี

ตามปกติแล้วคุณแม่และคุณพ่อจะสามารถทราบเพศของลูกในครรภ์ ในช่วงที่ ท้องห้าเดือน ซึ่งแพทย์ผู้ดูแลครรภ์จะทำการตรวจด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ ทำให้เราสามารถเห็นอวัยวะแสดงเพศของเด็กทารกในครรภ์ได้ แต่จริงๆ การตรวจนี้ผลที่ต้องการเป็นเรื่องการดูพัฒนาการของทารกว่าสมบูรณ์แข็งแรงดีหรือไม่ มีอะไรผิดปกติกับร่างกายของทารกในครรภ์หรือเปล่า การทราบเพศเป็นเพียงผลพลอยได้ แต่… อย่างไรก็ดี การทราบเพศของลูกในท้องมันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นประการหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่ส่วนมากอยากทราบ และส่วนมากอยากทราบกันตั้งแต่เริ่มรู้ว่าตั้งครรภ์ หรือมี อาการท้องเดือนแรก กันนั่นเลยทีเดียว !
การทำนายว่าทารกจะเกิดมากเป็นผู้ชายหรือเป็นผู้หญิง เป็นเรื่องที่มีมานานตั้งสมัยโบราณ ซึ่งก็มีการคิดค้นวิธีการดูเพื่อทำนายกันมากมายหลายวิธี ซึ่งเราก็เคยได้นำเสนอไปแล้วหลายครั้ง และ แม้จะเป็นเรื่องจริงที่ว่า การทำนายล่วงหน้าแบบนี้ผลมันไม่ค่อยแน่นอนและส่วนใหญ่หาเหตุผลความเชื่อมโยงได้ลำบาก เช่น หากคุณแม่ชอบกินของหวานลูกจะเป็นผู้หญิง ชอบทานอาหารสดๆ ดิบๆ จะได้ลูกชาย หรือ ชอบดอกไม้ชอบน้ำหอมจะได้ลูกสาว เหม็นน้ำหอมจะได้ลูกชาย ซึ่งหาความเกี่ยวเนื่องได้ยาก และส่วนมากก็เป็นแค่การเสี่ยงทายเท่านั้น (จริงๆ แล้วผลความแม่นยำมันมีฐานอยู่แล้ว 50% เนื่องจากเด็กที่เกิดไม่เป็นเด็กผู้ชาย ก็ต้องเป็นเด็กผู้หญิง มีแค่ 2 เพศ) แต่คนส่วนมากก็ยังอยากรู้… วันนี้เราได้ไปพบวิธีทำนายเพิ่มมาอีกแบบ ซึ่งออกแนวการทดลองทางวิทยาศาสตร์ จึงอยากนำมาบอกเล่าสู่กันฟัง
นั่นก็คือการทดสอบเพศของลูกในครรภ์ด้วยปัสสาวะของคุณแม่ตั้งครรภ์ ซึ่งจะทำการทดลองโดยการใช้น้ำปัสสาวะของคุณแม่ตั้งครรภ์มาผสมกับน้ำต้มของกะหล่ำปลีม่วง
วิธีการก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เพียงแค่เก็บปัสสาวะของคุณแม่ (เขาบอกว่าในช่วงเช้าจะได้ผลชัดเจนที่สุด) เอามาผสมกับน้ำต้มของกะหล่ำปลีสีม่วง หากว่าเมื่อผสมกันแล้วน้ำกะหล่ำปลีเปลี่ยนสีจากสีม่วง กลายเป็นสีออกแดงๆ คุณจะได้ลูกเป็นเพศชาย แตกหากว่าไม่เปลี่ยนสีจะได้ลูกสาว
นี่เป็นวิธีการ ทายเพศลูกในท้อง ที่ง่ายและทำเองได้ที่บ้าน เป็นได้ว่ามันอาจเกิดการทำปฏิกิริยาระหว่างฮอร์โมนในปัสสาวะของคุณแม่ตั้งครรภ์กับสารสีของกะหล่ำปลี จึงสามารถแสดงผลออกมาได้ อันนี้ต้องลองทดสอบ ว่ากันว่าได้ผลแม่นยำราว 60-70% เลยทีเดียว !!